การปกป้องแนวปะการังจากครีมกันแดด
ปะการังเป็นสิ่งมีชีวิตที่บอบบางซึ่งมีความสัมพันธุ์เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับแมงกะพรุนและดอกไม้ทะเล แนวปะการังถูกสร้างขึ้นจากสัตว์เล็กๆหลายพันตัวรวมกัน เรียกว่า “โพลิฟ” โดยมีรูปร่างเหมือนถุงพลาสติกและมีหนวดรอบๆ ยื่นออกมา
ช่วยกันปกป้องแนวปะการัง
โพลิฟสร้างโครงสร้างหินปูนที่ได้จากไอออนในน้ำทะเลเพื่อก่อตัวเป็นรูปถ้วย คาลิกซ์ ซึ่งมีโพลิฟที่ละเอียดอ่อนบอบบางอยู่ภายใน
ปะการังอาศัยอยู่ร่วมกับสาหร่ายขนาดเล็กที่เรียกว่าซูแซนเทลลี (สาหร่ายเซลล์เดียวที่สามารถสังเคราะห์แสงได้) สาหร่ายขนาดเล็กเหล่านี้จับแสงอาทิตย์แล้วแปลงเป็นพลังงานที่จำเป็นต่อปะการัง
ปะการังต้องเติบโตในน้ำตื้นและใสที่สาหร่ายตระกูลซิมไบโอติกสามารถสังเคราะห์แสงได้ ปะการังส่วนใหญ่มีร่างกายใสเห็นชัดและมีโครงสร้างสีขาว โดยทั่วไปสีที่สวยงามของปะการังมาจากเจ้าสาหร่ายซูแซนเทลลีนั่นเอง
ทำไมครีมกันแดดถึงไม่ดีสำหรับแนวปะการัง
ครีมกันแดดทำงานโดยเป็นกระจกสะท้อนรังสีออกไปหรือเรียกว่า Physical หรืออาจจะทำงานได้โดยใช้สารเคมี Chemical ที่มีโครงสร้างซับซ้อนเพื่อไม่ให้รังสี อุลตร้าไวโอเล็ต (ยูวี) ถูกดูดซึมเข้าสู่ผิว แต่ปัญหาคือครีมกันแดดล้างไม่ออกในน้ำและตกตะกอนบนพื้นผิวของมหาสมุทร
น้ำมันในครีมกันแดดที่ตกตะกอนบนพื้นผิวทะเล จะป้องกันรังสียูวีจากการแทรกซึมของน้ำและป้องกันซูแซนเทลลีจากการสังเคราะห์แสง นี่เป็นสาเหตุให้ปะการังตกอยู่ในความเครียดและขับสาหร่ายออกมาทำให้ปะการังกลายเป็นสีขาว ซึ่งเรียกปัญหานี้ว่า ภาวะฟอกขาวของปะการัง
ผลจากการศึกษาเรื่องครีมกันแดดที่แสดงออกมา
จากการศึกษาในปีพ.ศ. 2559 ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติพบว่าสารเคมีทั่วไปในโลชั่นครีมกันแดดและเครื่องสำอางค์หลายชนิดมีความเป็นพิษต่อปะการังอ่อน รวมถึงสัตว์ทะเลอื่นๆเช่นเดียวกัน
Oxybenzone ออกซี่เบนโซน (BP-3) พบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากกว่า 3,500 ชนิดเพื่อปกป้องผู้ใช้จากรังสียูวีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์
เชื่อกันว่ามีครีมกันแดดประมาณ 14,000 ตันต่อปีถูกสะสมอยู่ในมหาสมุทร ความเสียหายที่ใหญ่ที่สุดพบในพื้นที่แนวปะการังยอดนิยม
มีบางสถานที่ที่ต้องพึ่งพาแนวปะการัง เช่น ฮาวายและปาเลาซึ่งมีกฎหมายห้ามใช้สารเคมีบางชนิดที่พบในครีมกันแดด การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีหน้า
แม้ว่าคุณจะไม่ได้ว่ายน้ำหลังจากทาครีมกันแดด แต่มันก็จบลงที่มหาสมุทรด้วยวิธีอื่น ละอองจากสเปรย์ครีมกันแดดสามารถลอยพ่น ได้จำนวนมากลงบนพื้นทรายซึ่งมันจะถูกล้างลงสู่มหาสมุทรของเรา
หลังจากการท่องเที่ยวในหนึ่งวันบนชายหาดจบสิ้น คุณกลับบ้านและเข้าไปอาบน้ำซึ่งเป็นการใช้น้ำล้างครีมกันแดด ซึ่งน้ำที่เปื้อนครีมกันแดดเหล่านี้ยังพบในสภาพแวดล้อมทางทะเลอีกด้วย
ครีมกันแดดและเกาะเต่า
วิธีเพลิดเพลินไปกับดวงอาทิตย์โดยไม่ทำลายแนวปะการัง
- วางแผนวันของคุณโดยหลีกเลี่ยงชั่วโมงที่ร้อนของวัน โดยทั่วไปดวงอาทิตย์จะร้อนที่สุดตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้าถึงบ่ายสองโมง อาจจะวางแผนเพื่อไปทำกิจกรรมอื่นๆในช่วงที่อากาศร้อนที่สุดตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 14.00 น.
- ซึ่งเป็นเวลาที่ดีในการดูว่าอะไรอย่างอื่นที่เกาะเต่า; นั่งชิลล์หนึ่งในร้านอาหารริมชายหาดที่น่ารัก ใช้บริการนวดแผนไทยหรือเรียนทำอาหารไทย
- ลงทะเบียนเพื่อไปดำน้ำลึก! ใช้เวลาที่ร้อนแรงที่สุดของวันใต้น้ำ โดยระมัดระวังแสงอาทิตย์ด้วยการนั่งในที่ร่มและอย่าทาครีมกันแดดก่อนลงน้ำ
- สวมเสื้อผ้าป้องกันแสงแดด แขนยาว ผ้าระบายอากาศและน้ำหนักเบาเป็นวิธีที่ดีในการปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด ใส่หมวกปีกกว้างและแว่นกันแดดกันยูวีเพื่อปกป้องดวงตาของคุณ
- เมื่อดำน้ำตื้นหรือว่ายน้ำให้สวมเสื้อแรชการ์ดแขนยาวเพื่อป้องกันแสงแดด เสื้อรัชการ์ดจำนวนมากมี UPF ที่ 50 หรือสูงกว่า การลงทุนซื้อเสื้อผ้าที่เหมาะสมสามารถลดความต้องการใช้ครีมแสงแดดของคุณได้และอยู่ได้ยาวนานกว่าครีมกันแดดหนึ่งขวดอีกด้วย!
- นั่งชิลล์ในที่ร่ม กางร่มและนั่งใต้ต้นไม้
หากการใช้ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
- เลือกครีมกันแดดที่ทำจากน้ำแร่ที่ไม่ใช่“ นาโน” Zinc oxide ซิงค์ออกไซด์ หรือ Titanium dioxide ไทเทเนียมไดออกไซด์
- เลือกครีมกันแดดที่ปลอดภัย โดยไม่มีส่วนผสมของ Oxybenzone ออกซี่เบนโซนและ Octinoxate ออกธิโนเซท
- เลือกครีมกันแดดที่ไม่ใช่สเปรย์ละอองลอยและทาครีมกันแดดหนึ่งชั่วโมงก่อนจะออกแดด
การซ่อมแซมของแนวปะการังคือการเลือกใช้ครีมกันแดดที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อปะการัง ซึ่งผลิตในประเทศไทยและมีจำหน่ายสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะเต่าเช่นเดียวกัน
ขอขอบคุณข้อมูลด้านล่างต่อไปนี้สำหรับแผนภูมิที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของครีมกันแดดที่มีต่อแนวปะการังของเราและทางเลือกอื่นๆที่ให้เราได้เลือกปฏิบัติ
- NOAA Ocean Service
- Andy Brunning for Chemical & Engineering News
- Earth911
- Bereefsafe
คำถามที่พบบ่อย
สารกันแดดแบบไหนที่ปลอดภัยกับแนวปะการัง?
เมื่อเลือกครีมกันแดดให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีอ็อกซีเบนโซนและ อ็อคติโนเซทซึ่งเป็นอันตรายต่อปะการัง
มีแบรนด์ครีมกันแดดที่เป็นมิตรกับแนวปะการังมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงครีมกันแดดที่ผสมน้ำแร่ยี่ห้อรีรีฟ (Rereef) ที่ผลิตในประเทศไทย ยี่ห้อแบดเจอร์ (Badger) ครีมกันแดดที่มีน้ำแร่และเป็นผลิตภัณฑ์อินทรีย์ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา ยี่ห้อเซฟซี (SafeSea) ครีมกันแดดสูตรออร์แกนิกมีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันพิษแมงกะพรุน ผลิตในประเทศอิสราเอลและยี่ห้อรีฟ รีแพร์ (Reef Repair) ครีมกันแดดที่เป็นมิตรกับแนวปะการังที่ผลิตในประเทศไทย
ครีมกันแดดมีผลกระทบต่อแนวปะการังอย่างไร?
สารเคมีที่อยู่ในครีมกันแดดบางชนิดเช่น สารเคมีอ็อกซีเบนโซนและอ็อคติโนเซท ชะล้างออกไปจากร่างกายเมื่อคุณว่ายน้ำ เมื่อสารเคมีเหล่านี้อยู่ในน้ำพวกมันจะส่งผลกระทบต่อปะการังในเรื่องความสามารถในการสังเคราะห์แสงลดน้อยลง จึงเกิดความเสียหายต่อพัฒนาการและสุดท้ายก็สามารถฆ่าปะการังได้ในที่สุด
สารเคมีอะไรในครีมกันแดดที่ไม่ดีต่อปะการัง?
สารเคมีอ็อกซีเบนโซนและอ็อคติโนเซทไม่ดีต่อแนวปะการังและยังมีสารเคมีอื่นๆ จำนวนมากรวมถึงอะโวเบนโซน
ครีมกันแดดฟอกสีปะการังได้อย่างไร?
สารเคมีอ็อกซีเบนโซนที่อยู่ในครีมกันแดดบางตัวจะถูกดูดซึมโดยปะการังเมื่อครีมกันแดดชะล้างออกจากร่างกายของคุณ สารเคมีอ็อกซีเบนโซนมีอนุภาคนาโนที่ทำลายการสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของปะการังและทำให้เกิดภาวะปะการังฟอกสี
ควรทาครีมกันแดดในน้ำหรือไม่?
ควรทาครีมกันแดดทุกๆ 30 นาทีก่อนโดนแสงแดด ไม่ใช่แค่ทาครีมกันแดด 30 นาทีก่อนลงน้ำ