การปีนหน้าผาบนเกาะเต่า

การปีนหน้าผาและปีนหินโดยไม่ใช้เชือกบนเกาะเต่า

การปีนหน้าผาและการปีนหินโดยไม่ใช้เชือกเป็นกิจกรรมทางร่างกาย ที่จะทำให้ร่างกายของคุณสามารถหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาได้ไม่ยากเลย

ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม พร้อมกับสารอะดรีนาลีนพลุ่งพล่าน ถือเป็นกิจกรรมสำหรับการปรับปรุงสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจได้ทั้งสองด้านไปพร้อมกัน

หากเริ่มพูดถึงเรื่องการปีนหน้าผาหรือการปีนหินโดยไม่ใช้เชือก มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเล่นกีฬาประเภทนี้ ได้แก่

• อายุและระดับความฟิต
• ระดับทักษะ
• สถานที่ฝึกอบรม

ปีนหน้าผาคืออะไร

วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้คือการปีนเขาเพื่อสำรวจการก่อตัวของหินประเภทต่างๆ โดยใช้อุปกรณ์ปีนเขาเพื่อป้องกันไม่ให้ร่วงหล่นตกลงมา

ได้แก่ อุปกรณ์เกียร์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงเข็มขัดปีนหน้าผา เชือกสำหรับปีนเขา อาจมีน้ำหนักได้มากถึง 12 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับตำแหน่งการปีน

ในการปีนขึ้นไปทุกครั้ง คุณต้องแน่ใจว่าการวางอุปกรณ์ได้วางในวิธีที่ดีที่สุดและถูกต้อง เพื่อรองรับน้ำหนักของตัวเองและน้ำหนักของชุดอุปกรณ์

เป้าหมายสำหรับนักปีนเขาคือ การปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของก้อนหิน หรือถึงจุดบนเส้นทางที่ได้รับการกำหนดให้เป็นจุดสิ้นสุดของการปีนเขา

การปีนสามารถทำได้สองวิธีคือ ปีนเขาแบบที่มีคนใส่เกลียวน็อตไว้ให้แล้ว หรือปีนเขาแบบดั้งเดิมบนก้อนหินที่ยัง “ ใหม่” ที่มีการวางน็อตไว้แล้วหลังจากนั้น คุณค่อยเกลียวเองเมื่อปีนขึ้นไป

การปีนบนก้อนหินที่ใหม่ ถือเป็นการหลั่งสารอะดรีนาลีนมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากนักปีนเขาจะต้องผลักขีดจำกัดของพวกเขาเองให้ได้ เพื่อแก้ปัญหาว่าจะวางห่วงไว้ยึดตรงไหนดีถึงจะสามารถปีนต่อไปได้อีก

โดยทั่วไปนักปีนเขาจะไม่ “ปีนกลับลงมา” เนื่องจากพวกเขาจะใช้เวลานานและใช้พลังงานมหาศาลเมื่อปีนขึ้นไป

การปีนหินโดยไม่ใช้เชือกคืออะไร

การปีนหินโดยไม่ใช้เชือก เป็นรูปแบบกิจกรรมของการปีนเขาซึ่งปีนโดยไม่มีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยใดๆ

เป็นต้นกำเนิดรูปแบบการฝึกอบรมสำหรับนักปีนเขา เพื่อฝึกฝนการแก้ปัญหาและสร้างความอดทน การปีนเขาลักษณะนี้ได้พัฒนาไปสู่รูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเองมากขึ้น

โดยทั่วไปแล้วการปีนโดยไม่ใช้เชือกมักจะสวมรองเท้าปีนเขา เพื่อให้มีรากฐานยึดเกาะที่ดีและมือจะหยิบชอล์กก่อนปีนจากกระเป๋าชอล์กข้างหลังเพื่อให้สามารถเกาะได้ดีขึ้น หน้าผาที่จะปีนขึ้นไปมักจะไม่สูงไปกว่า 20 ฟุตและนักปีนเขามักจะขึ้นไปคนเดียว

การแก้ไขปัญหา

ความตื่นเต้นในการปีนโดยไม่ใช้เชือก ถูกสร้างขึ้นเพื่อความพึงพอใจในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับวิธีการขึ้นไปที่ด้านบนของหน้าผาว่าจะขึ้นไปถึงยอดหินได้อย่างไร จะใช้หินก้อนไหนปีนต่อ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของหน้าผาที่ปีนขึ้นไป

โดยทั่วไปแล้วการปีนหินโดยไม่ใช้เชือกนั้นสั้นกว่าการปีนเขาแบบดั้งเดิม แต่อาจทำให้คุณเหนื่อยมากขึ้นเพราะคุณพยายามทำให้มันเสร็จสิ้นในครั้งเดียวโดยไม่มีการหยุดพัก

หลายครั้งนักปีนเขาต้อง “ยกตัวเองขึ้นไป” เพื่อให้ปีนไปถึงจุดหมาย ซึ่งอาจเป็นส่วนที่น่ากลัวที่สุดของการปีนเนื่องจากไม่มีห่วงให้ยึดเหนี่ยว

การปีนเขาและการปีนหินโดยไม่ใช้เชือกเพื่อการออกกำลังกายและสุขภาพที่ดี

ทั้งการปีนเขาและการปีนหินโดยไม่ใช้เชือกให้ประโยชน์เหมือนกันเรื่องไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มความอดทน เพิ่มความแข็งแกร่งและเพิ่มการทำงานของสมองของนักปีนเขา ด้วยการเพิ่มความสามารถในการแก้ปัญหา

ประโยชน์เหล่านี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่นักปีนเขาเข้าร่วม

การปีนหน้าผาทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นรวมถึงการเพิ่มสุขภาพด้านทางเดินหายใจ โดยทั่วไปการปีนจะช้าและมั่นคงซึ่งจะเพิ่มความอดทนของกล้ามเนื้อและความแข็งแกร่ง

ประโยชน์ที่จะได้รับจากความอดทนและความแข็งแกร่งนั้นจะเพิ่มขึ้นตามความยากลำบากของเส้นทางปีนเขา

ผลักตัวเองไปให้ถึงขีดจำกัด

การปีนโดยไม่ใช้เชือกอาจจะไม่สูงมาก ใกล้กับพื้นดินมากกว่าและนักปีนเขาใช้เส้นทางที่สั้นกว่า ความอดทนจะมีมากกว่าเมื่อร่างกายถูกผลักไปจนถึงจุดที่สูงสุดเพื่อให้การปีนเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด

ระดับความแข็งแรงของนักปีนเขาและการปีนหินโดยไม่ใช้เชือกแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นักปีนเขาพัฒนากล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกาย เมื่อเริ่มปีนเขาพวกเขาจะรู้สึกว่ากล้ามเนื้ออยู่ในแขน หลังและไหล่มากที่สุด

เมื่อพวกเขาก้าวหน้าและพัฒนาระดับทักษะขึ้น พวกเขาเรียนรู้ที่จะใช้ขาของพวกเขามากขึ้นในการผลักพวกเขาขึ้นไป ลดการใช้แขนและเรียนรู้ที่จะปรับระดับความแข็งแรงทั่วทั้งร่างกาย

ในทางกลับกันการปีนโดยไม่ใช้เชือก นักปีนมักมีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงกว่าแขน

การเคลื่อนไหวที่พวกเขาทำนั้นมีพลังมากกว่านักปีนเขาแบบดั้งเดิม ถึงแม้ว่าในตอนแรกพวกเขาใช้ร่างกายส่วนบนและความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว นักปีนเขาที่มีประสบการณ์มักจะใช้แขนเพื่อรักษาสมดุลและตำแหน่งของร่างกาย

พวกเขาจะเหยียดแขนให้ตรงทุกครั้งที่ทำได้และปล่อยให้กระดูกรองรับน้ำหนักมากกว่ากล้ามเนื้อ

เลือกการปีนหินโดยไม่ใช้เชือกหรือเลือกการปีนหน้าผา

กิจกรรมทั้งสองเป็นการออกกำลังกายที่สำคัญต่อสมอง เนื่องจากนักปีนเขาต้องพยายามไขปริศนาว่าจะขึ้นไปสู่ด้านบนได้อย่างไร ประเภทของปริศนาแตกต่างกันระหว่างบุคคล

นักปีนเขามีวิธีแก้ไขปัญหาหลายอย่างเพื่อปีนเขาและจำเป็นต้องเรียนรู้การวางกลยุทธ์อย่างดีเพื่อให้เส้นทางของพวกเขาสำเร็จ

ยิ่งปีนเขาที่ท้าทายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งใช้สมองมากขึ้นเท่านั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการปีนโดยไม่ใช้เชือกมักจะสั้นกว่าแต่อาจซับซ้อนกว่า เนื่องจากต้องแก้ปัญหาและการเคลื่อนไหวที่พวกเขาต้องทำและปีนต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ตกลงมาจากก้อนหิน

ประโยชน์ของการปีนหน้าผาหรือการปีนหินโดยไม่ใช้เชือก

นอกจากการพัฒนาทักษะทางกายภาพการทำงานของสมองแล้ว กิจกรรมทั้งสองนี้ สามารถช่วยสร้างภาวะทางอารมณ์ของนักปีนเขาได้อีกด้วย

การเอาชนะความกลัวความสูงและการร่วงหล่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกิจกรรมทั้งสอง การปีนเขาช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และช่วยพัฒนาตัวเองซึ่งนำไปสู่การมีทัศนคติด้านบวกมากขึ้นในชีวิต

นอกจากนี้ยังแนะนำว่าทั้งสองกิจกรรมสามารถช่วยลดระดับความเครียดได้ โดยให้ผู้เข้าร่วมเข้าสู่การปีนอย่างต่อเนื่อง และความต่อเนื่องคือการจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำ ทำให้มีสมาธิมากขึ้น

นักปีนเขาจะลืมความเครียดและความวิตกกังวลทั้งหมดของชีวิต เพื่อให้พวกเขาสามารถควบคุมและมีสมาธิอย่างเต็มที่และมุ่งความสนใจไปสิ่งที่พวกเขากำลังทำ ทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากกิจกรรมปีนเขานี้

ปีนหน้าผาหรือการปีนหินโดยไม่ใช้เชือกบนเกาะเต่า

เกาะเต่าเป็นสวรรค์ของนักปีนเขาหรือนักปีนหินโดยไม่ใช้เชือก เนื่องจากเกาะเต่ามีหินแกรนิตขนาดใหญ่อยู่รอบส่วนต่างๆของเกาะ หากคุณเป็นคนที่กระตือรือร้นหรือเป็นมือใหม่ เกาะเต่ามีตัวเลือกให้คุณเลือก

คุณสามารถค้นหาหลักสูตรครึ่งวัน เต็มวันหรือหลายวันตามระดับประสบการณ์ของคุณ เพราะบนเกาะเต่าคุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทั้งสองนี้ได้ง่ายๆในขณะที่ดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงามขณะปีนอยู่เหนือน้ำทะเลใสหรือแม้แต่การเดินไปในป่าลึกเพื่อค้นหาหินแกรนิตสำหรับปีนเขา

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปีนหน้าผาหรือปีนหินโดยไม่ใช้เชือกบนเกาะเต่า คุณสามารถส่งข้อความถึงเราเพื่อจองกิจกรรมได้อย่างปลอดภัย