ข้อมูลหลักสูตรนักดำน้ำช่วยชีวิตบนเกาะเต่า
คอร์สนักดำน้ำเพื่อช่วยชีวิตจะเปลี่ยนคุณให้เป็นนักดำน้ำที่มีความสามารถและมีความปลอดภัยมากขึ้น – แถมสนุกในเวลาเดียวกัน
ขอแนะนำให้คุณดำน้ำอีกไม่กี่ไดฟ์หลังจบคอร์สดำน้ำเบื้องต้นและคอร์สดำน้ำขั้นสูง คุณจะได้เรียนทักษะใหม่ๆหลายอย่างในคอร์สนักดำน้ำช่วยชีวิต
ข้อกำหนดของหลักสูตรดำน้ำช่วยชีวิต
ไม่มีข้อจำกัดด้านประสบการณ์การดำน้ำที่เฉพาะเจาะจง แต่ข้อกำหนดขั้นต่ำในหลักสูตรคือ:
- อายุขั้นต่ำ 12 ปี
- นักดำน้ำอายุ 12-14 ปีได้รับใบรับรองเป็นนักดำน้ำ “รุ่นจูเนียร์”
- การรับรองเป็นนักดำน้ำจาก PADI (รุ่นจูเนียร์)
- การดำน้ำนำทางใต้น้ำเป็นข้อกำหนด
- ผ่านหลักสูตร EFR ในคอร์สการปฐมพยาบาลฉุกเฉินเบื้องต้น
- ต้องอบรมใน 24 เดือนที่ผ่านมา
- สามารถฝึกให้เสร็จเป็นหลักสูตร 1 วันก่อนเริ่มคอร์สนักดำน้ำช่วยชีวิต
รูปแบบของหลักสูตรดำน้ำช่วยชีวิต
คอร์สดำน้ำช่วยชีวิตใช้เวลา 3 วัน ซึ่งรูปแบบการเรียนจะเหมือนกับคอร์สดำน้ำเบื้องต้น Open Water และคอร์สดำน้ำขั้นสูง โดยจะมีการเรียนทฤษฎี การฝึกในสระว่ายน้ำและการดำน้ำในทะเล
เหมือนกับคอร์สดำน้ำอื่นๆ คุณจะต้องกรอกใบรับรองแพทย์ของ PADI พร้อมกับเอกสารต่างๆ ในช่วงเริ่มคอร์สและรับการปฐมนิเทศจากครูสอนดำน้ำของคุณ
แต่ละวันจะเริ่มต้นด้วยการเรียนทฤษฎีในตอนเช้า มีทฤษฏี 5 บทที่จะต้องเรียนให้เสร็จในตอนเช้าของสองวันแรก คุณจะดูการนำเสนอออนไลน์และวิดีโอก่อนจะไปถึงการทบทวนความรู้พร้อมกับครูสอนดำน้ำ
ในเช้าวันที่ 3 คุณจะทำการสอบนักดำน้ำช่วยชีวิตแบบข้อสอบปรนัยและสร้างแผนความช่วยเหลือฉุกเฉิน (Emergency Assistance Plan) รวมทั้งเรียนการใช้ออกซิเจนในภาวะฉุกเฉิน
การให้ออกซิเจน
การได้รับการรับรองในการใช้ออกซิเจนอย่างถูกกฎหมาย คุณสามารถรวมคอร์สดำน้ำช่วยชีวิตเข้ากับคอร์สการใช้ออกซิเจนในภาวะฉุกเฉิน (Emergency Oxygen Provider Course)
ช่วงบ่ายจะเป็นการฝึกอบรมในน้ำ ในวันแรกครูสอนดำน้ำของคุณจะ (หลังจากทบทวน “การช่วยชีวิตตัวเอง” ไปเล็กน้อย) ทำทักษะส่วนใหญ่ให้คุณในสระว่ายน้ำที่มีน้ำตื้น
ทำให้คุณมีเวลาเหลือเฟือในการฝึกฝนทักษะเหล่านั้นก่อนที่เราจะลงเรือในบ่ายวันที่สอง
บ่ายวันที่สองเราจะทวนสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ไปแล้วในสระว่ายน้ำและนำมาปฏิบัติในทะเลที่ค่อนข้างตื้น รวมถึงเรียนทักษะใหม่ๆ สองสามอย่างที่ยากต่อการฝึกในสระว่ายน้ำ (เช่นการค้นหานักดำน้ำที่สูญหายโดยใช้รูปแบบการค้นหาต่างๆ)
สิ่งที่คุณจะได้รับ
ทักษะสำคัญของคอร์สดำน้ำเพื่อช่วยชีวิต
- นักดำน้ำที่เหนื่อยหรือหวาดกลัว
- นักดำน้ำที่รู้สึกเครียดใต้น้ำ
- นักดำน้ำที่ไม่ตอบสนองบนผิวน้ำ
- การจัดการกับนักดำน้ำที่หมดสติ
- การนำนักดำน้ำออกจากใต้น้ำ
- ขั้นตอนการค้นหานักดำน้ำที่สูญหาย
- การส่งสัญญาณไปที่เรือต่อนักดำน้ำที่ตอบสนองและไม่ตอบสนอง
- การจัดการเหตุฉุกเฉินในภาพรวม การปฐมพยาบาลและการให้ออกซิเจน
เมื่อได้รับการฝึกฝนทั้งหมดนี้แล้ว คุณพร้อมที่จะก้าวไปสู่ขั้นสุดท้ายเพื่อเป็นนักดำน้ำช่วยชีวิต
สถานการณ์จำลองช่วยชีวิต
ในวันสุดท้ายของคอร์ส หลังจากสร้างแผนฉุกเฉินสำหรับจุดดำน้ำของวัน คุณจะต้องสาธิตสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ในวันก่อนหน้าและนำไปปฏิบัติจริง
ใน ‘ชีวิตจริง’ สถานการณ์จำลองที่เป็นไปได้จะถูกสร้างขึ้นให้กับคุณและบัดดี้ของคุณในการรับผิดชอบสิ่งต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในวันนั้น
การได้รับการรับรองเป็นนักดำน้ำช่วยชีวิต
มีการสอนคอร์สดำน้ำช่วยชีวิตเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีเวลาเหลือเฟือที่จะเรียนทักษะและเทคนิคทั้งหมดและทำได้ใน ‘ชีวิตจริง’ ให้ดีที่สุดด้วยการทำงานเป็นทีม
ครูสอนดำน้ำและนักเรียนดำน้ำส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมหลักสูตรนี้อธิบายว่า “สนุกมากๆ!”
รับรองได้ว่าคุณจะเหนื่อยตอนจบหลักสูตรนี้ แต่จะมีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของคุณและทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นในการดำน้ำ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สดำน้ำช่วยชีวิตหรือคอร์สการดำน้ำลึกรอบเกาะเต่าคุณสามารถติดต่อเราเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับตารางการเดินทางของคุณ
คำถามที่พบบ่อย
หลักสูตร Rescue Diver มีราคาเท่าไหร่?
หลักสูตร Rescue diver ราคา 13,000 บาทซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลของ EFR หากคุณถือใบรับรองการปฐมพยาบาลที่ยังไม่หมดอายุและไม่จำเป็นต้องเรียนหลักสูตร EFR ค่าหลักสูตรช่วยชีวิตคือ 10,000 บาท
หลักสูตรช่วยชีวิตสามารถทำได้เร็วกว่า 3 วันหรือเปล่า?
หลักสูตรนักดำน้ำ Rescue สามารถเสร็จสิ้นได้ใน 2 วันขึ้นอยู่กับขนาดของกลุ่มและนานเท่าที่คุณสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพทั้งหมดได้
ถ้าหากไม่ได้ดำน้ำมาสักระยะหนึ่ง?
ถ้าคุณไม่ได้ดำน้ำมาระยะหนึ่ง คำแนะนำของเราคือ ให้ทำการทบทวนการดำน้ำลึกเพื่อฟื้นฟู รื้อฟื้นทักษะของคุณและสามารถสนุกกับคอร์สในการเรียน
ต้องการอุปกรณ์พิเศษหรือเปล่า?
ในหลักสูตรช่วยชีวิตมีอุปกรณ์ทั้งหมดที่คุณต้องการรวมไว้ให้แล้ว
ใบรับรองจากองค์กรการฝึกอบรมอื่นใช้แทนกันได้หรือไม่?
มีการพิจารณาคุณสมบัติจากหน่วยงานดำน้ำอื่นๆ และควรปรึกษาผู้สอนดำน้ำของคุณในลงทะเบียนหลักสูตร