การฟื้นฟูปะการังและแนวปะการัง
แนวปะการังเป็นระบบนิเวศใต้น้ำที่ก่อตัวขึ้นจากโพลิปของปะการัง (สิ่งมีชีวิตเล็กๆเป็นตัวอ่อน) และก่อตัวรวมกันกลายเป็นโครงสร้างหินปูน
แนวปะการังถูกสร้างขึ้นเมื่อโพลิปนั้นเริ่มยึดติดกับหินหรือก้นสมุทร หลังจากนั้นจะเริ่มแบ่งตัวเองออกนับพันเซลล์
ปะการังปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อราว 485 ล้านปีก่อนและมักจะได้รับการเรียกชื่อว่า ‘ป่าฝนแห่งท้องทะเล’
ระบบนิเวศที่หลากหลาย
แนวปะการังส่วนใหญ่เติบโตได้ดีที่สุดในน้ำทะเลอุ่นและตื้น พบเห็นได้ทั่วไปในน่านน้ำเขตร้อนทั่วโลก
ปะการังก่อตัวเป็นระบบนิเวศที่หลากหลายที่สุดบนโลกและเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในทะเลหลายชนิดรวมถึงปล่า มอลลัสกา หนอน สัตว์น้ำเปลือกแข็ง ปลาดาวและฟองน้ำ
แนวปะการังมีความเปราะบางและบอบบางต่อสภาวะน้ำทะเล แต่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในน้ำทะเลที่มีสารอาหาร
แนวปะการังมีบทบาทสำคัญ
แนวปะการังมีหน้าที่และมีบทบาทที่สำคัญอย่างมากในสภาพแวดล้อมทางทะเลของเรา
เมืองใต้น้ำเหล่านี้เป็นที่พักพิงของสิ่งมีชีวิตในทะเลหลายชนิดและยังช่วยในการรีไซเคิลสารอาหาร ด้วยเหตุนี้ทำให้สิ่งมีชีวิตและสัตว์ทะเลจำนวนมากจึงเลือกที่จะอาศัยอยู่ในแนวปะการังเป็นอันดับแรก
ห่วงโซ่อาหารทางทะเล
ปะการังให้สารอาหารที่จำเป็นต่อส่ิงมีชีวิตในทะเล โดยเป็นต้นกำเนิดและแหล่งที่มาของก๊าซไนโตรเจนและช่วยในการดูดซึมเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป ซึ่งกระบวนการนี้จำเป็นต่อห่วงโซ่อาหารในทะเล
ปะการังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ในหลายประเทศทั่วโลก มีนักว่ายน้ำ ดำน้ำลึกและดำน้ำตื้นเพื่อชมความงามอันน่าทึ่งของโลกใต้ทะเล
แนวปะการังกำลังถูกคุกคาม
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าการก่อตัวของแนวปะการังเกิดขึ้นจากการละลายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ละลายในมหาสมุทรแล้วปะการังจะดูดซึมแปลงก๊าซชนิดกลายนี้เป็นหินปูน ดังนั้นปะการังจึงสามารถควบคุมระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในมหาสมุทรได้
แนวปะการังมีความสำคัญต่อสัตว์ในทะเลและแน่นอนกับมนุษย์เช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นเราทุกคนจะได้รับผลกระทบจากระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มสูงขึ้น
ในการแพทย์สมัยใหม่ แนวปะการังนำมาใช้เป็นส่วนผสมที่จำเป็นสำหรับการทำยาที่ช่วยรักษาชีวิตมนุษย์จำนวนมาก หากปราศจากแนวปะการังมนุษย์จะไม่ได้รับยาดังกล่าว และจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่มากขึ้นต่อการอยู่รอด
แนวปะการังยังช่วยรักษาแนวชายฝั่งทะเลด้วยการสร้างกำแพงกั้นกระแสน้ำที่อาจจะโหมกระหน่ำของมหาสมุทรในช่วงมรสุมได้อีกเช่นกัน
เมื่อคลื่นทะเลเคลื่อนตัวมาบนชายฝั่ง คลื่นจะโจมตีแนวปะการังก่อนจากนั้นจึงเปลี่ยนเส้นทางและกระจายตัวใหม่ทำให้ทิศทางของคลื่นช้าลงในทิศทางที่ต่างกัน
พายุหมุนเขตร้อนส่งผลกระทบต่อชายหาดและชายฝั่งอย่างแน่นอน ดังนั้นหากไม่มีแนวปะการัง พายุหมุนสามารถกัดเซาะและทำให้เสื่อมโทรมได้อย่างง่ายดาย ก่อให้เกิดขยะต่อชุมชนทั้งหมดที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่ง
อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น
น่าเสียดายที่แนวปะการังถูกคุกคามจากความเครียดหลายและปัจจัยอย่างจากทั่วโลกเช่น อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นอกจากนี้กิจกรรมบนบกของมนุษย์ที่เป็นอันตรายได้สร้างมลภาวะ การตกปลามากเกินไป การเพิ่มขึ้นของผู้รุกราน (รวมถึงนักดำน้ำที่ไม่มีประสบการณ์ สัมผัสและเคลื่อนย้ายปะการัง) อันตรายทางธรณีวิทยาและสารอาหารที่มากเกินไป
รูปแบบการเติบโตของปะการังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากภัยคุกคามเหล่านี้และปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้งานวิจัยและการศึกษาเรื่องแนวปะการังมีความสำคัญ
ประเภทของโครงการฟื้นฟูปะการัง
มีการฟื้นฟูปะการังอยู่สองประเภทหลักๆ การฟื้นฟูแบบแรกคือการฟื้นฟูอย่างตรงประเด็น (Active) และแบบที่สองคือการฟื้นฟูทางอ้อม (Passive)
Passive หมายถึงการหยุดสิ่งกดดันด้านสิ่งแวดล้อม แนะนำพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและหยุดการรบกวนทั้งหมดที่เป็นภัยคุกคามต่อแนวปะการัง
Active หมายถึงโครงการที่ประกอบด้วยเทคนิคการจัดการทางตรงเช่น การรักษาปะการังที่เสียหายโดยการใช้วัสดุที่แข็งแรงและทนนานเพื่อช่วยฟื้นฟูแนวปะการังให้กลับสู่สภาพสมบูรณ์
โครงสร้างแนวปะการังประดิษฐ์
แนวปะการังที่เสียหายหลายแห่งอาจใช้เวลาเป็นปีหรืออาจจะเป็นทศวรรษในการฟื้นตัว โดยส่วนใหญ่พวกมันทำเช่นนั้นไม่ได้เองโดยไม่มีโครงสร้างแน่นหนาที่จะยึดติดกับตัวเอง
ในพื้นที่ที่กลายเป็นทรายหรือบริเวณที่เป็นแนวปะการังเกิดการเสียหายหรือสูญเสียไปเนื่องจากการรบกวนต่างๆ ยิ่งจำเป็นต่อการฟื้นฟูมากเท่านั้น
วิธีหนึ่งในการพัฒนาสุขภาพแนวปะการังและช่วยให้พวกมันเจริญเติบโตคือการสร้างแนวปะการังประดิษฐ์ในพื้นที่ที่สามารถติดตามผลได้
โครงการฟื้นฟูแนวปะการังบนเกาะเต่า
บนเกาะเต่า แนวปะการังเทียมเป็นส่วนสำคัญของโครงการฟื้นฟูแนวปะการังที่ประสบความสำเร็จมาหลายปี
ตัวอย่างที่ดีที่สุดของงานที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องคือแนวปะการัง Junkyard Biorock บัวยันซี เวิลด์และเรือหลวงสัตกูต (เรือระบายพลเก่าที่บริจาคโดยกองทัพเรือไทย)
แหล่งดำน้ำเหล่านี้เป็นแหล่งฝึกอบรมนักดำน้ำที่ยอดเยี่ยมและช่วยลดแรงกดดันให้แหล่งดำน้ำธรรมชาติที่อยู่รอบเกาะเต่า
รอบๆ เกาะเต่า มีการจัดการและเฝ้าระวังการอนุบาลปะการังอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยในการวิจัย และช่วยลดความกดดันให้แหล่งดำน้ำธรรมชาติในท้องถิ่นอื่น ๆ
สถานอนุบาลปะการัง
แนวปะการังเทียมเหล่านี้จะยังคงเพิ่มแนวปะการังและประชากรทะเล รวมทั้งให้พื้นที่ปลอดภัยสำหรับการฟื้นฟูปะการัง
ข้อมูลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่ดำเนินการและเก็บรวบรวม คาดว่าจะให้ประโยชน์กับทุกคน สามารถทำความเข้าใจแนวโน้มเรื่องสุขภาพแนวปะการังได้มากขึ้น
เพื่อปกป้องแนวปะการังทั่วโลก จึงจำเป็นต้องมีการอนุรักษ์และจำเป็นต้องให้การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการฟื้นฟูปะการังรอบเกาะเต่า สามารถติดต่อเราได้ที่นี่